HydraOS อุปกรณ์ครอบคลุม
HydraOS ระบบหรี่แสงอัตโนมัติ สามารถตรวจสอบปริมาณแสงรวมรายวัน (DLI) ได้ ทำให้สามารถปรับแสงให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของต้นไม้ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ต้นไม้ได้รับแสงที่พอเหมาะตลอดทั้งวันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสง และการเจริญเติบโต
ระบบการหรี่แสงอัตโนมัติ
- การตั้งค่าแสงตามช่วงเวลา:
- HydraOS สามารถตั้งค่าการปรับความเข้มแสงตามช่วงเวลาของวัน เพื่อจำลองการขึ้นและตกของแสงธรรมชาติ เช่น เพิ่มความเข้มในตอนเช้า ลดลงในตอนเย็น
- HydraOS สามารถตั้งค่าการปรับความเข้มแสงตามช่วงเวลาของวัน เพื่อจำลองการขึ้นและตกของแสงธรรมชาติ เช่น เพิ่มความเข้มในตอนเช้า ลดลงในตอนเย็น
- การปรับความเข้มแสงตามความต้องการของต้นไม้:
- ระบบสามารถปรับความเข้มแสงอัตโนมัติตามความต้องการของต้นไม้ในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต เช่น เพิ่มความเข้มในช่วงที่ต้นไม้ต้องการแสงมาก และลดความเข้มในช่วงที่ต้องการแสงน้อย
- ระบบสามารถปรับความเข้มแสงอัตโนมัติตามความต้องการของต้นไม้ในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต เช่น เพิ่มความเข้มในช่วงที่ต้นไม้ต้องการแสงมาก และลดความเข้มในช่วงที่ต้องการแสงน้อย
- การใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับแสง:
- HydraOS ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเข้มแสง (Light Sensors) ที่ติดตั้งในบริเวณปลูกต้นไม้ เพื่อปรับความเข้มแสงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
การ Monitor DLI ต่อวัน
- การวัดค่า PPFD (Photosynthetic Photon Flux Density):
- HydraOS ใช้เซ็นเซอร์วัดความเข้มแสงในหน่วยไมโครโมลต่อตารางเมตรต่อวินาที (µmol/m²/s) เพื่อตรวจสอบปริมาณแสงที่ต้นไม้ได้รับในแต่ละช่วงเวลา
- HydraOS ใช้เซ็นเซอร์วัดความเข้มแสงในหน่วยไมโครโมลต่อตารางเมตรต่อวินาที (µmol/m²/s) เพื่อตรวจสอบปริมาณแสงที่ต้นไม้ได้รับในแต่ละช่วงเวลา
- การบันทึกข้อมูลความเข้มแสง:
- ระบบจะบันทึกข้อมูลความเข้มแสง (PPFD) และระยะเวลาที่ต้นไม้ได้รับแสงในแต่ละวัน
- ระบบจะบันทึกข้อมูลความเข้มแสง (PPFD) และระยะเวลาที่ต้นไม้ได้รับแสงในแต่ละวัน
- การคำนวณ DLI:
- HydraOS ใช้ข้อมูลความเข้มแสง (PPFD) และระยะเวลาที่ต้นไม้ได้รับแสงในการคำนวณค่า DLI โดยใช้สูตร: DLI=PPFD×จำนวนชั่วโมงที่พืชได้รับแสง×3.6\text{DLI} = \text{PPFD} \times \text{จำนวนชั่วโมงที่ต้นไม้ได้รับแสง} \times 3.6DLI=PPFD×จำนวนชั่วโมงที่พืชได้รับแสง×3.6
- PPFD คือค่าความเข้มแสงในหน่วย µmol/m²/s และจำนวนชั่วโมงคือเวลาที่ต้นไม้ได้รับแสงในหนึ่งวัน
- การแสดงผลและการแจ้งเตือน:
- HydraOS จะแสดงผลค่า DLI ที่คำนวณได้ผ่านแอปพลิเคชันหรือหน้าจอแสดงผล
- หากค่า DLI ไม่ตรงกับความต้องการของต้นไม้ ระบบจะแจ้งเตือนผู้ใช้เพื่อให้ปรับการตั้งค่าแสงได้ตามความเหมาะสม
การเลือกใช้ DLI ดีกว่าการใช้ PPFD
1. การสะสมของแสงตลอดทั้งวัน:
DLI: เป็นการวัดปริมาณแสงที่ต้นไม้ได้รับตลอดทั้งวัน (24 ชั่วโมง) ซึ่งรวมทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ทำให้ได้ภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณแสงที่ต้นไม้ได้รับในหนึ่งวัน
PPFD: เป็นการวัดปริมาณแสงในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ (เช่น วัดในหนึ่งวินาที) ซึ่งอาจไม่ได้ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับปริมาณแสงที่ต้นไม้ได้รับตลอดทั้งวัน
2. ความสำคัญในการเจริญเติบโตของต้นไม้:
DLI: ช่วยให้เข้าใจถึงปริมาณแสงรวมที่ต้นไม้ต้องการสำหรับการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม การคำนวณ DLI ช่วยให้นักปลูกสามารถปรับปริมาณแสงให้ตรงกับความต้องการของต้นไม้แต่ละชนิดได้
PPFD: แม้ว่า PPFD จะมีประโยชน์ในการวัดความเข้มของแสงในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสะสมของแสงในช่วงเวลานาน ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้มากกว่า
3. การจัดการแสงอย่างมีประสิทธิภาพ:
DLI: ช่วยให้นักปลูกสามารถจัดการแสงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การปรับเวลาการเปิด-ปิดไฟให้เหมาะสมกับการสะสมแสงของต้นไม้ในแต่ละวัน
PPFD: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้มของแสงในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการแสงในระยะยาว
4. ความเหมาะสมกับการปลูกต้นไม้หลายชนิด:
DLI: เหมาะสำหรับการปลูกต้นไม้หลายชนิดที่ต้องการปริมาณแสงที่แตกต่างกัน ช่วยให้สามารถปรับแสงได้ตามความต้องการของต้นไม้แต่ละชนิด
PPFD: ใช้สำหรับการวัดความเข้มของแสงในพื้นที่เฉพาะจุด ซึ่งอาจไม่ครอบคลุมถึงการจัดการแสงในพื้นที่กว้างหรือการปลูกต้นไม้หลายชนิด
เสริมการปลูกด้วย HydraOS
LEAF5 แนะนำ HydraOS ระบบหรี่แสงอัตโนมัติ ช่วยให้การจัดการแสงสำหรับต้นไม้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบเปิดปิดอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างดี สอดคล้องกับความต้องการของต้นไม้ในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต DLI เป็นตัวชี้วัดที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับการจัดการแสงสำหรับการปลูกต้นไม้ในระยะยาว ทำให้สามารถปรับการให้แสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของต้นไม้