สรุปวิธีใช้งาน ผลกระทบของแสง UV และแสง Far-Red สำหรับเริ่มการปลูกต้นไม้ในร่ม

การใช้งาน ผลกระทบแสง UV และแสง Far-Red ต่อการปลูกต้นไม้

สรุปวิธีใช้งาน ผลกระทบแสง ของการเข้าใจถึงบทบาทของแสง UV และแสง Far-Red ต่อต้นไม้ สามารถช่วยให้นักปลูกปรับแต่งแสงที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงการเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสงทั้งสองชนิดมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากายภาพ และองค์ประกอบทางเคมีของต้นไม้

สรุปวิธีใช้แสง UV สำหรับการปลูกต้นไม้ในร่ม

แสง UV (Ultraviolet Light) ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้งาน ใช้ในช่วงการเจริญเติบโต (Vegetative Stage) และช่วงปลายของการออกดอก (Late Flowering Stage) ควรควบคุมปริมาณแสงอย่างระมัดระวัง เนื่องจากแสง UV ที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อต้นไม้

ผลกระทบต่อต้นไม้
1. เพิ่มการผลิตเทอร์พีนและแคนนาบินอยด์
– แสง UV-B ช่วยกระตุ้นการผลิตสารเมตาบอไลต์ เช่น THC และ CBD ซึ่งต้นไม้ใช้เป็นกลไกป้องกันตัวเองจากแสง UV
2. ป้องกันศัตรูพืชและโรคต่าง ๆ
– การได้รับแสง UV อาจช่วยลดปัญหาศัตรูพืช และการเติบโตของเชื้อรา
3. ความเครียดที่อาจเกิดขึ้น
– การได้รับแสง UV มากเกินไปอาจทำให้ใบเสียหายหรือการเติบโตชะงัก

สรุปวิธีใช้แสง Far-Red สำหรับการปลูกต้นไม้ในร่ม

แสงสีแดง(ลับตา) Far-Red Light ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้งาน ใช้ในช่วงออกดอก (Flowering Stage) เพื่อกระตุ้นการพัฒนาดอก ใช้ช่วงสั้น ๆ ในตอนท้ายของรอบแสงเพื่อเลียนแบบพระอาทิตย์ตกและกระตุ้นการตอบสนองของการออกดอก

ผลกระทบต่อต้นไม้
1. กระตุ้นการยืดตัวของพืช
– แสง Far-Red ช่วยกระตุ้นพืชให้เติบโตสูงขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการกระจายแสงในเรือนปลูกที่หนาแน่น
2. เร่งการออกดอก
– แสง Far-Red ช่วยกระตุ้นการตอบสนองต่อช่วงแสง (Photoperiod Response) ทำให้การออกดอกในต้นไม้ที่ต้องการช่วงแสงสั้นเกิดขึ้นเร็วขึ้น
3. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตชีวมวล
– แสง Far-Red ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสงเมื่อใช้ร่วมกับแสงสีแดงและสีน้ำเงิน

สเปกตรัมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโต และการออกดอก

ช่วงการเจริญเติบโต (Vegetative Growth)
– สเปกตรัมที่เหมาะสม:
แสงสีน้ำเงิน (400-500 nm) และแสงสีแดง (600-700 nm) เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตที่กะทัดรัดและแข็งแรง
– บทบาทของแสง UV:
ใช้แสง UV-A (315-400 nm) ในปริมาณน้อยเพื่อเพิ่มความต้านทานต่อสภาวะที่ก่อให้เกิดความเครียด

ช่วงออกดอก (Flowering Stage)
– สเปกตรัมที่เหมาะสม: ใช้แสงสีแดง (600-700 nm) ร่วมกับแสง Far-Red (700-750 nm) และเสริมด้วยแสง UV-B (280-315 nm) เพื่อเพิ่มการผลิตเทอร์พีนและแคนนาบินอยด์
– อัตราส่วนแสง: อัตราส่วนแสงสีแดงต่อแสง Far-Red 4:1 เหมาะสำหรับความสมดุลของการเจริญเติบโตและการออกดอกแสง UV-B ใช้ในปริมาณน้อยเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

สรุปการผสานแสง UV และแสง Far-Red เข้ากับการปลูกในร่ม

สรุปวิธีใช้งาน ผลกระทบแสง UV ช่วยเพิ่มการผลิตแคนนาบินอยด์และเทอร์ปีน พร้อมลดปัญหาศัตรูพืช แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย แสง Far-Red ช่วยเร่งการออกดอก กระตุ้นการเติบโต และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตชีวมวล
LEAF5 แนะนำการเลือกสเปกตรัมที่เหมาะสมควรพิจารณาตามช่วงการเจริญเติบโตของต้นไม้ โดยเลือกใช้ไฟเสริม SAP เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตให้มากขึ้น และปรับแต่งแสงอย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มคุณภาพและผลผลิต