ทำความเข้าใจการมองเห็น 101
แสงไหนที่มนุษย์มองไม่เห็น แต่ต้นไม้มองเห็น ซึ่งมนุษย์และต้นไม้มองเห็นและใช้แสงในช่วงความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน แสงที่มนุษย์มองเห็น: มนุษย์สามารถมองเห็นแสงในช่วงสเปกตรัมที่มองเห็นได้ ซึ่งอยู่ระหว่างประมาณ 380 ถึง 700 นาโนเมตร (nm)
- สีม่วง: 380-450 nm
- สีน้ำเงิน: 450-495 nm
- สีเขียว: 495-570 nm
- สีเหลือง: 570-590 nm
- สีส้ม: 590-620 nm
- สีแดง: 620-700 nm
แสงอัลตราไวโอเลต (UV)
- ช่วงแสง UV: 100-380 nm
- ประเภทย่อย:
- UVA: 315-400 nm
- UVB: 280-315 nm
- UVC: 100-280 nm
- การใช้สำหรับต้นไม้: แสง UV โดยเฉพาะ UVA และ UVB สามารถมีผลต่อกระบวนการต่างๆ ในต้นไม้ เช่น การตอบสนองต่อความเครียด การผลิตสี และการควบคุมการเจริญเติบโต
แสงสีแดง(ลับตา) (FR)
- ช่วงแสง FR: 730 nm ถึง 1 มิลลิเมตร (mm)
- ประเภทย่อย:
- แสงสีแดง(ลับตา) (FR): 730-1400 nm
- การใช้สำหรับต้นไม้: ต้นไม้ใช้แสงสีแดง(ลับตา) ในกระบวนการต่าง ๆ เช่น ประสิทธิภาพของการสังเคราะห์แสงและการรับรู้สิ่งแวดล้อม แสงสีแดง(ลับตา) ยังช่วยในการตรวจจับระยะเวลาของวันและการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
การสังเคราะห์แสง (PAR)
- ช่วง PAR: 400-700 nm
- ความสำคัญ: ช่วงนี้รวมถึงแสงสีน้ำเงิน (ประมาณ 450-495 nm) และแสงสีแดง (ประมาณ 620-700 nm) ซึ่งมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์แสง แม้ว่ามนุษย์จะมองเห็น PAR แต่ต้นไม้จะใช้ช่วงนี้เพื่อการเจริญเติบโตและการผลิตพลังงาน
ต้นไม้สัมผัมและรับรู้ได้
แสงไหนที่มนุษย์มองไม่เห็น แต่ต้นไม้มองเห็น สรุปมนุษย์สามารถมองเห็นช่วงสเปกตรัมที่มองเห็นได้ ประมาณ 380-700 nm ในขณะที่ต้นไม้สามารถใช้แสงในช่วงที่กว้างขึ้น รวมถึงแสง UV และแสงสีแดง(ลับตา) ซึ่งมองไม่เห็นสำหรับมนุษย์ แต่มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโต การพัฒนา และการสังเคราะห์แสงของต้นไม้ LEAF5 แนะนำ SAP ไฟเสริมมีทั้งหมด 3 สี Far-Red Light, UV Light และ Green Light ที่เข้ามาเสริมการปลูกให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น